อยู่ในวงการเพลงมานานกว่า 12 ปีแล้ว สำหรับนักร้องหนุ่มเสียงทรงพลัง เอ๊ะ จิรากร สมพิทักษ์ ที่มีผลงานเพลงป๊อปเพราะๆ อาทิ จากนี้ไปจนนิรันดร์, ไม่มีตรงกลาง, ใจกลางความรู้สึกดีดี, ระหว่างเราสองคน, ตั้งใจ, ไม่ใช่ความลับ, สิ่งที่มันกำลังเกิด

อีกทั้งแจ้งเกิดเต็มๆ จากการเป็น “หน้ากากอีกาดำ” ในรายการ “The Mask Singer” ทางช่องเวิร์คพอยท์ โด่งดังการร้องคัฟเวอร์เพลงร็อก อาทิ Zombie (ศิลปิน The Cranberries), What’s up (ศิลปิน 4 Non Blondes), Endless Rain (ศิลปิน X Japan), ทิ้งรักลงแม่น้ำ (ศิลปิน Y Not 7) ฯลฯ ที่ทำให้หลายคนรู้ว่า แท้จริงแล้ว เอ๊ะ จิรากร เป็นชาวร็อกท่านหนึ่งเช่นกัน
เอ๊ะ จิรากร กับชีวิตหลังจากแจ้งเกิดจากการเป็นหน้ากากอีกาดำ ที่ยังคงขึ้นๆ ลงๆ และยังต้องทำสารพัดอาชีพ ทั้งเปิดค่ายเพลงเล็กๆ โรงเรียนสอนดนตรี ขายสเปรย์ ขายป๊อปคอร์น รวมถึงธุรกิจร้านเสื้อผ้าผู้หญิง เรียกว่าทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว รวมไปถึงผลงานเพลงล่าสุด “ที่ว่างข้างร่ม” กับสังกัดปัจจุบัน Me Records ตลอดจนชีวิต 12 ปีในวงการเพลง ที่หากมีโอกาสทำคอนเสิร์ตของตัวเอง ก็อยากจะชวน หนึ่ง จักรวาล มาร่วมทำงานด้วยกัน

ชีวิตหลังร่วมรายการดัง
เราให้เอ๊ะ จิรากร รีวิวชีวิตหลังไปร่วมรายการ “The Mask Singer หน้ากากนักร้อง” ทางช่องเวิร์คพอยท์ และแจ้งเกิดจาก “หน้ากากอีกาดำ” ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เจ้าตัวเล่าว่า “ชีวิตก็ขึ้นๆ ลงๆ ก่อนจะมี The Mask ก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักอะไรมาก พอมารายการก็เป็นที่รู้จัก มีงาน มีเงินทอง ชื่อเสียง แต่มันก็มีการล้มลงไปหลังจากมีโควิด คือวูบเลย จากที่มีงานเป็น 10-20 งานต่อเดือน กลับไม่เหลืออะไรเลย แต่ประสบการณ์นั้นจิตใจเราไม่ได้กระทบเท่าไร แต่กับการที่จะต้องหาเงินในวิกฤติของโควิดมันยาก ซึ่งเราไม่ได้ดูแลแค่เราคนเดียว เรามีครอบครัว มีนักดนตรี
ก็ปรึกษากันว่าทำอะไรดี ก็มาขายกุ้ง เปิดโรงเรียนสอนดนตรี ทุกวันนี้ยังทำอยู่ แต่ก็รู้สึกว่าทำอะไรที่ถนัดดีกว่า แต่กุ้งไม่ได้ทำเพราะใช้เวลานานในการย่างกุ้ง ถามว่าถนัดมั้ยก็ถนัด แต่นานๆ กินทีดีกว่า พอจัดการตัวเองในด้านทำมาหากินได้ก็โอเค ทุกวันนี้ก็ทำอยู่ 4-5 อาชีพ โรงเรียนดนตรียังอยู่ที่บ้าน ร้านเสื้อผ้าที่หยุดไปช่วงโควิดตอนนี้ก็ยังอยู่ทั้ง 2 ร้านครับ และก็ทำเมาท์สเปรย์ Thor มาตั้งแต่โควิด

ส่วนที่เพื่อนชวนทำค่ายเพลง Rocktown Assemble ก็ยังทำอยู่ ก็เป็นแนวเพลงร็อก ทำประมาณ 2 ปีแล้ว สุดท้ายตอนนี้ก็หันมาทำป๊อปคอร์นด้วย คือเรารู้สึกว่าอาชีพขายของออนไลน์มันอยู่ได้และไปยาว เราไม่ต้องทำงานตลอด 24 ชม. โควิดทำให้เรารู้ว่าเราไม่สามารถมีอาชีพเดียวได้ ต้องมีอาชีพที่ 2 3 4 5 ถ้ามีครอบครัวก็จะรู้ว่าเราต้องรับผิดชอบอะไรอีกมากมาย เราต้องไม่หยุด ลูกเยอะด้วยไง”
ด้วยความเป็นหัวหน้าครอบครัว ภาระเยอะ ถามว่ามีเหนื่อยมีท้อไหม เอ๊ะบอกว่า “วันที่ท้อน่าจะเป็นช่วงโควิดแหละ เราไม่รู้จะทำอะไร มันมืดแปดด้าน โควิดคนก็ประหยัดกัน เงินเก็บก็ไม่ค่อยจะมี อาชีพก็ไม่มี ออกมาทำงานก็ไม่ได้ ผ่านมาได้ก็คือสุดยอด ตอนนั้นคือประกาศขายบ้านขายคอนโดฯ แล้วนะ สรุปไม่มีใครซื้อเลย เราก็ต้อง Hold ทรัพย์สินเรา ตอนโควิดเราหลุดไปแค่รถตู้คันนึง แต่อีก 2 คันยังอยู่ ตอนนั้นมีรถ 3 คัน ช่วงนั้นร้านเสื้อผ้าปิดด้วยเพราะห้างปิด แล้วก็มาไลฟ์ขายของ ตอนนี้ก็ยังขายอยู่แต่น้อยแล้ว ช่วงที่ลำบากสุดๆ ตอนนั้นก็ดาวน์นะ เราเป็นผู้นำครอบครัวแต่ไม่สามารถออกไปทำงานได้ มันไม่ต่างจากคนเป็นอัมพาต แต่ดีที่มีคนชวนทำโน่นทำนี่ ช่วงนั้นเราเปลี่ยนตัวเองหน้ามือเป็นหลังมือ ตอนนั้นหงอยๆ อยู่ 3-4 เดือน เงินเก็บที่มีอยู่ไม่สามารถดูแลทั้งบ้านได้ ก็ต้องพลิกเลย ช่วงที่ติดโควิดทั้งบ้านไม่ค่อยเครียดเท่าไร เพราะตอนนั้นเงินเก็บยังพอมี ธุรกิจยังพอไปได้ แต่เรื่องร้องเพลงไม่หมดไฟนะ ยังไลฟ์ร้องเพลง เราเป็นคนบ้าเพลงอยู่แล้ว มีสมบัติเก็บไว้เยอะ แผ่นไวนิลราคาเป็นหมื่น แรร์ไอเท็ม แต่ยังไม่ขาย เก็บไว้ก่อน”

ถามว่ามีอะไรที่อยากทำแต่ยังไม่ได้ทำไหม เอ๊ะบอกว่า “ยังไม่ได้ทำร้านนวด เรารู้สึกว่าอะไรที่มันใกล้ตัวเรา เรามีความรู้ในอาชีพนั้นๆ เรานั่งคุยกับหมอนวดจนเรารู้ว่าต้องนวดยังไง แก้อาการแบบไหน หรืออย่างเราชอบกินอาหารทะเล ก่อนจะเป็นอีกาดำ ก็ทำอาหารทะเลขายที่ CDC มันมีความรู้ติดตัวหมดเลย มันเป็นสิ่งที่เราชอบอยู่แล้วไง แล้วเราเอาสิ่งนั้นเป็นอาชีพ โคตรมีความสุขเลย อยากสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนหาสิ่งที่ตัวเองชอบ และทำเป็นอาชีพดู”