Timeline เพลงร็อคไทยกับวงดังแห่งยุค

หลังจากหมดยุควงฮาร์ดร็อคหรือวงเมทัลก็จะเข้าอยู่ยุคอัลเทอร์เนทีฟ ในยุคนี้จะมีค่ายเพลงเล็กๆเกิดขึ้นมากมายเพื่อเป็นทางเลือกให้คนฟังเลือกเสพย์เพลงในแนวที่แปลกใหม่ออกไปไม่ซ้ำซากจำเจกับเพลงป็อปตลาดของค่ายใหญ่

1994 โมเดิร์นด็อก

หลังจากอัลบั้มชุดที่ 1 ของวงหินเหล็กไฟก็ได้มีวงที่จุดประกายเพลงร็อคขึ้นมาอีกครั้งในแนวอัลเทอร์เนทีฟกับค่ายเบเกอรี่ มิวสิคด้วยเนื้อหาที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใครในเพลงบุษบา ต่างจากเพลงทั่วไปที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องความรัก และฝีไม้ลายมือขั้นเทพแน่นปั๋งกับเครื่องดนตรีแต่ 3 ชิ้นคือ ป็อด ธนชัย (ร้อง), เมธี (กีต้าร์) บ็อบ สมอัตถ์ (เบส) และ โป้ง ปวิณ (กลอง) รวมวงกันประกวดโค้กมิวสิคอวอร์ดเมื่อปี 1992 และได้รางวัลชนะเลิศ ออกอัลบั้มแรกชุดเสิรมสุขภาพในปี 1994 กลายเป็นตำนานของอัลเทอร์เนทีฟไทยไปตั้งแต่เพลงแรกและเป็นวงที่ทำให้ค่ายเบเกอรี่ มิวสิคมีชื่อคุ้นหูนักฟังเพลงอีกเช่นกัน ปี 1994 ทั้งเพลงบุษบา, ก่อน, มานี, กะลา และบางสิ่ง หรือแทบทั้งอัลบั้มวัยรุ่นยุคนั้นร้องกันได้หมด เนื้อหาของเพลงนั้นฉีกแนวเดิมๆของเมืองไทยไปอย่างสิ้นเชิง รวมไปถึงแนวดนตรีที่เปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับวงการเพลงร็อคของไทย ดังนั้นช่วงเวลาปี 1994 คงไม่มีใครเกินวง โมเดิร์นด็อก วงดนตรีที่เป็นสัญลักษณ์ของยุคอัลเทอร์เนทีฟ โดยวงโมเดิร์นด็อกมีผลงานมาทั้งหมด 6 อัลบั้มจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหลังจากอัลบั้มที่ 2 ชุดคาเฟ่ ก็ได้มีการเปลี่ยนมือเบสเป็นมือเบสสมทบจากวงอื่นหลายท่าน

1994 Y not 7

หนึ่งในวงร็อคดังแห่งยุค 90 ที่มีเอกลักษณ์จากการถือโทรโข่งร้องของเหน่ง นักร้องนำ สมาชิกในยุคแรกเริ่มมี 6 คน คือ เหน่ง (ร้องนำ), กอล์ฟ (เบส), แป๊ะ (กีต้าร์), ก้อย (กีต้าร์), ไก่ (กลอง) และ โต๊ด (คีย์บอร์ด) รวมตัวกันทำวงดนตรีเล่นกลางคืนและทำงานที่บริษัท ORANGE MUSIC ไปด้วย ก่อนจะได้ออกเทปกับค่ายแกรมมี่เมื่อปี 1994 ในชื่อชุด Y not 7 แค่เพลงแรก “ค่อยๆพูด” ก็ส่งให้คนฟังเพลงทั่วประเทศรู้จักกับวงนี้ทันที อัลบั้มชุดแรกประสบความสำเร็จอย่างมากมีเพลงฮิตอย่าง “เกลียดความสงสาร” และ “ทิ้งรักลงแม่น้ำ” ร้องกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง 2 ปีต่อมาก็อัลบั้มที่สองชื่อชุด Six แต่ด้วยเนื้อหาที่หนักขึ้นทำให้ประสบความสำเร็จน้อยกว่าชุดแรก จนมาอัลบั้มที่ 3 ในปี 1998 ที่มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกเนื่องจาก แป๊ะ ต้องย้ายไปอยู่ญี่ปุ่น และ โต๊ด มือคีย์บอร์ดออกจากวงไป จึงได้ เชษฐ์ พิเชษฐ์ เครือวัลย์ เป็นมือกีต้าร์แทน เหลือสมาชิกแค่ 5 คน แต่อัลบั้ม Yeah!ก็กลับมาประสบความสำเร็จไม่น้อยไปกว่าอัลบั้มแรก มีเพลงฮิตอย่าง “Yeah! Yeah!” และ “เรื่องขี้หมา” หลังจากนั้นก็มีอัลบั้มออกมาอีก 2 ชุด ก่อนจะแยกย้ายไปทำเพลงเบื้องหลัง อย่างกอล์ฟ มือเบสก็ไปเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับปาล์มมี่ ในอัลบั้ม Stay และ เชษฐ์ มือกีต้าร์ก็ไปเล่นแบ็คอัพให้กับอัสนี-วสันต์

1995 สไมล์บัฟฟาโล่

วง”ควายยิ้ม”ที่แจ้งเกิดกับกระแสอัลเทอร์เนทีฟในบ้านเราด้วยเพลงเปิดตัว ดีเกินไป ในปี 1995 ส่งผลให้ 4 สมาชิก ดิษฐ์, เต็น, หนึ่ง และเชษฐ์ ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในวงร็อคชั้นนำของบ้านเราทันที อัลบั้มชุดแรกยังมีเพลง ฟ้ายังฟ้าอยู่ หนึ่งในเพลงฮิตตลอดกาลของพวกเขาเช่นเดียวกัน วงสไมล์บัฟฟาโล่ออกเทปกับค่าย EMI มา 2 ชุดก่อนจะย้ายไปค่ายเมคเกอร์เฮดในเครือแกรมมี่และมีผลงานออกมาอีก 3 ชุด มีเพลงฮิตอย่าง จำใจ และ กุหลาบในมือ แม้ว่าช่วงอยู่แกรมมี่จะสามารถคว้ารางวัลวงร็อคยอดเยี่ยมจากสีสันอวอร์ดมาได้ในปี 1999 แต่กระแสความนิยมถือว่าน้อยลงกว่าตอนอยู่ค่ายEMI เพราะแนวเพลงค่อนข้างเบาลงเยอะพอสมควร จนหมดอัลบั้มสุดท้าย สาวชุดดำ ในปี 2000 สมาชิกในวงก็ต้องแยกย้ายกันไป ช่วงแรกนั้นแต่ละคนแยกไปทำอัลบั้มส่วนตัว เช่นดิษฐ์และเต็นไปทำวงชื่อ สไนเปอร์ หนึ่งและเชษฐ์ไปทำอัลบั้มสไมล์ร็อค แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนตอนทำวงร่วมกัน ปัจจุบันสมาชิกต่างก็ไปทำงานเบื้องหลังกันแทบทั้งหมด เช่น ดิษฐ์ที่ยังคุ้นหน้ากับการเป็นแบ็คอัพให้ เสก โลโซ ในขณะที่เชษฐ์มือกลองหันหลังให้กับวงการไปทำเกษตรกรรม

1995 แบล็คเฮด

วงร็อคหัวดำที่อดีตสมาชิกวงยูเรเนี่ยมในสมัยก่อนอย่าง ปู อานนท์ (กีต้าร์) และ ต๋อง สมทบ (เบส) ออกมาฟอร์มวงใหม่จึงได้ เอก อภิสิทธิ์ มือกีต้าร์จากวงบิ๊กกัน และ ยุ่น วิโรจน์มาตีกลอง ช่วงแรกนั้นยังเล่นดนตรีกลางคืนทั่วไปแต่ก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้วเพราะเป็นอดีตนักดนตรีจึงเล่นร็อคผับ ผับชื่อดังที่สุดของชาวร็อค ก่อนที่ชั่วโมงนั้นกระแสเพลงแนวอัลเทอร์เนทีฟกับค่ายเล็กกำลังมา พวกเขาจึงได้ร่วมงานกับค่ายดนตรีเอ็มสแควร์ออกมินิอัลบั้มที่มีแค่ 4 เพลงในปี 1995 ชื่อชุด แบล็คลิสต์ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากกับเพลงยืนยัน จึงออกอัลบั้มเต็ม 11 เพลงมาในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน ทำให้ชื่อวงแบล็คเฮดเข้าไปอยู่ในใจชาวร็อคหลายคนและต่อยอดด้วยอัลบั้มที่ 2 Full Flavor ในปี 1997 ซึ่งอัลบั้มนี้ทำให้พวกเขาได้รับรางวัลสีสันอวอร์ดถึง 3 รางวัลคือ รางวัล “ศิลปินกลุ่มร็อคยอดเยี่ยม” รางวัล “อัลบั้มร็อคยอดเยี่ยม” รางวัล “เพลงร็อคยอดเยี่ยม” จากนั้นจึงย้ายมาค่ายมอร์ มิวสิคในปี 1999 ทำอัลบั้ม Pure ส่งเพลง ยิ่งโต ยิ่งสวย และ อยู่ไป ไม่มีเธอ ดังเปรี้ยงจนขึ้นแท่นวงร็อคแถวหน้าของประเทศ วงแบล็คเฮด ออกอัลบั้มมาทั้งหมด 8 ชุด ซึ่งชุดล่าสุด White Line ก็เพิ่งปล่อยมาเมื่อปี 2013 กับค่ายสหภาพดนตรี